กรณี ตำรวจคอมมานโดฉาว แอบถ่ายปล่อยคลิปลับแฟนเก่า ล่าสุด 8มี.ค.67 หญิงผู้เสียหาย พร้อมกลุ่มเป็นหนึ่ง ไปยื่นหนังสือที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบพฤติกรรมของสิบตำรวจโท สังกัดตำรวจคอมมานโดนายหนึ่ง ที่นำคลิปอนาจารของผู้เสียหาย ไปเผยแพร่บนสื่อออนไลน์หลังจากเลิกคบหากัน วันนี้ทางกลุ่มเป็นหนึ่งได้พาผู้เสียหายอีก 1 คนที่ถูกกระทำในลักษณะเดียวกัน มายืนร้องต่อกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อระงับการเผยแพร่คลิปหลุดแฟนเก่า ของผู้เสียหายบนโลกอินเทอร์เน็ต
ล่าสุดเซ่นปม คลิปลับ คลิปหลุดแฟนเก่า ตร.คอมมานโด ปล่อยคลิปลับแฟนสาว โดนสั่งให้ออกจากราชการแล้ว พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยืนยัน ดำเนินคดีทั้งทางวินัยและอาญาอย่างถึงที่สุด
ผู้เสียหาย 2ราย ปมคลิปหลุด
โดย นางสาวชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ ประธานกลุ่มเป็นหนึ่ง และสมาชิกกลุ่มเป็นหนึ่ง ได้พาหญิงผู้เสียหาย 2 คน ที่ถูกสิบตำรวจโทสังกัดกองบังคับการปฏิบัติพิเศษ หรือตำรวจคอมมานโด นำคลิปลับไปเผยแพร่ บนสื่อออนไลน์แฟลตฟอร์มต่าง ๆ จนได้รับความเสียหาย โดยวันนี้ทางกลุ่มเป็นหนึ่งได้นำผู้เสียหายอีกคนหนึ่งที่เคยถูกกระทำในลักษณะเดียวกันมายื่นเรื่องร้องขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือกระทรวงดีอีเอส เพื่อระงับบัญชีออนไลน์ ที่เผยแพร่คลิปอนาจารของผู้เสียหายตามเว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ
ผู้เสียหายอีกคนที่ถูกนำคลิปไปเผยแพร่ เปิดเผยว่าได้คบหาดูใจกับตำรวจคนดังกล่าวเมื่อปี 2563 คบหากันได้ 3 เดือน ก่อนเลิกลากันไปเพราะจับได้ว่านายตำรวจคนดังกล่าวมีคนรักอยู่แล้ว ต่อมาอีก 3 เดือนกลับพบว่ามีคลิปอนาจารของตัวเองหลุดไปอยู่บน แอพพลิเคชั่น รวมถึงสื่อออนไลน์แพลตฟอร์มต่าง ๆ จนสร้างความอับอายต่อตัวเองและครอบครัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากสังคมรอบตัวมองว่าตัวเองเป็นคนไม่ดีหลังจากมีคลิปหลุดออกไป
ในขณะนั้นพยายามติดต่อสิบตำรวจโทคนดังกล่าว พยายามขอให้ลบคลิปแฟนเก่าออก แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ทุกช่องทาง ตัวเองจึงต้องทนทุกข์กับความอับอายตลอดระยะเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่เห็นข่าวว่ามีผู้เสียหายคนอื่นเข้ามาขอความช่วยเหลือจากกลุ่มเป็นหนึ่ง วันนี้จึงตัดสินใจออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมกับกลุ่มเป็นหนึ่งให้ช่วยเหลือทางคดีเพิ่มเติม
ด้าน นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่าทางกระทรวงขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียหายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทางกระทรวงจะนำข้อมูลที่ได้รับไปสืบค้นหาว่าใครเป็นเจ้าของบัญชีและใครเป็นคนแชร์ เพื่อระงับบัญชีที่เผยแพร่ทางออนไลน์โดยเร็วที่สุด เพราะถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในข้อหานำเข้าข้อมูลลามกอนาจารสู่ระบบ ส่วนต่างประเทศต่างประเทศ แอปvk ที่ไม่ได้ปิดกั้นการเผยแพร่เนื้อหาเหี่ยวกับทางเพศ อาจจะต้องใช้เวลาในการประสานไปยังเจ้าของแพลตฟอร์มนานกว่าแพลตฟอร์มทั่วไป แต่ยืนยันว่าจะทำให้เร็วที่สุดเพราะที่ผ่านมาทางแอพลิเคชั่น ดังกล่าวก็ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
และล่าสุด พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า กรณี ส.ต.ท. สังกัดกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (ตำรวจคอมมานโด) ได้มีคำสั่งให้ ส.ต.ท.คนดังกล่าวออกจากราชการไว้ก่อน ก่อนที่จะมีการตรวจสอบเพื่อดำเนินการทางวินัยตามข้อเท็จจริง ซึ่งการพิจารณาให้ออกไว้ก่อนในวันนี้ เพื่อให้สิ้นสภาพของการเป็นตำรวจและทำให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างเต็มที่