เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 67 สำนักข่าวต่างประเทศ vtcnews ได้มีรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในเมืองเจ้อเจียง ประเทศจีน หลังจากพ่อแม่ของเด็กชายวัย 4 ขวบ ยุ่งอยู่กับการทำงานหารายได้เลี้ยงครอบครัว จึงฝากเด็กไว้กับยายของเขา วันหนึ่งคุณยายพบว่าหลานชายชอบกินไข่ลวกมากๆ เธอมักจะต้มไข่ในแบบที่เขาชอบให้เสมอ
ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา
เนื่องจากนิสัยเป็นคนชอบประหยัด คุณยายคิดว่า ทุกครั้งที่ต้มไข่จะเสียเวลาและเงินไปกับค่าไฟฟ้าและน้ำมากขึ้น ดังนั้น จึงมักจะต้มไข่หลายฟองในเวลาเดียวกัน และเก็บส่วนที่เหลือไว้ในตู้เย็น จากนั้น ก็ค่อยๆ นำออกมาให้หลานชายกินภายใน 2-3 วัน
ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา
ผ่านไปได้ไม่นาน เด็กชายเริ่มมีอาการเหนื่อยล้าและร่างกายของเขาอ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว คุณยายตกใจมากจึงรีบโทรตามพ่อกับแม่ของเด็กชายกลับบ้านอย่างทันทีและได้พาเด็กชายไปที่ห้องฉุกเฉิน แม้ว่าเขาจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว แต่เด็กชายก็ได้รับการยืนยันว่า เสียชีวิตแล้วเมื่อไปถึง
ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา
อย่างไรก็ตาม จากการวินิจฉัยและสอบถามคุณยาย แพทย์เผยว่า ไข่ลวกที่ทิ้งไว้ในตู้เย็นนาน เป็นสาเหตุทำให้ผู้ป่วยอายุน้อยเสียชีวิต ไข่ที่สุกไม่เต็มที่และปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานจะทำให้แบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคเจริญเติบโตได้ดี โดยที่พบบ่อยที่สุดคือเชื้อซาลโมเนลลา (Salmonella Infection) เมื่อติดเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ในปริมาณมาก โดยทั่วไปผู้ป่วยมักมีอาการท้องเสีย ปวดท้อง มีไข้ และอ่อนแรง อาการมักเกิดขึ้นระหว่าง 8-72 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหารที่ปนเปื้อน
ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา
นอกจากนี้ ข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ยังชี้ให้เห็นว่า ในแต่ละปีทั่วโลก มีเด็กมากถึง 220 ล้านคนที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาหารเป็นพิษ โดย 40% เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ระยะฟักตัวในเด็กจำนวนมากใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง อาการของการเป็นพิษ ได้แก่ การอาเจียน ท้องเสีย และอาการอื่นๆ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ผู้ป่วยอาจเข้าสู่ภาวะช็อก โคม่า และเสียชีวิตได้ในกรณีร้ายแรงดังที่กล่าวข้างต้น
ข้อมูล vtcnews