สรุปดราม่า นักท่องเที่ยวใช้ “ฝอยขัดหม้อ” ยัดท่อ เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ ตรวจวัดระดับเสียงไม่เกิน 95 เดซิเบล เพื่อขึ้นเขาใหญ่ ขณะที่ “หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” เอาจริง เตรียมวิธีแก้ปัญหาดังกล่าวแล้ว
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพฝอยขัดหม้อลงในกลุ่ม เขาใหญ่ เที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ Khaoyai National Park โดยระบุว่า “ฝากถึงมอเตอร์ไซค์แต่งซิ่ง ท่อดังแต่อยากขึ้นเขาใหญ่นะคะ ถ้ามาเที่ยวเขาใหญ่แล้วมันจะลำบากขนาดนี้ ต้องเอาฝอยขัดหม้อยัดท่อเพื่อไม่ให้เสียงดัง เพื่อให้เข้าด่านได้ และพอเข้ามาแล้วก็เอาฝอยขัดหม้อมาทิ้งข้างทางแบบนี้ไม่น่ารักค่ะ คุณไม่มีจิตสำนึกต่อสถานที่ที่คุณมาเที่ยวเลยหรอ ถ้ามาเที่ยวแล้วทำตัวเป็นภาระให้อุทยานแบบนี้ก็ไม่น่ามานะคะ จากใจคนนึงที่รักเขาใหญ่ รักสัตว์ทุกๆ ตัวที่นี่ และรักช้างทุกๆ ตัวที่นี่มากด้วยค่ะ”
ทั้งนี้ หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก อาทิ ผมขึ้นเขาใหญ่ก็บ่อยนะ ทุกครั้งที่ขึ้นผมจะเปลี่ยนใส่ท่อเดิมทุกครั้ง แบบนี้เรียกมักง่าย, ไม่ใช่แค่มอเตอร์ไซค์ครับ รถยนต์ท่อดังก็เยอะอยู่ หนวกหูมาก สงสารสัตว์ป่ามากครับ, ผมยอมรับว่าเคยใช้ฝอยขัดหม้อขึ้นเขาใหญ่ครับ เมื่อไวๆ นี้เอง เพราะเสียงเกินมา 95.4 แต่ผมก็ใส่ตลอดทั้งทางครับ เงียบตลอดทั้งทาง สาเหตุเพราะเกรงใจสัตว์ครับ ไม่ได้เกรงใจใคร, ควรใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดและควรสุ่มตรวจตามจุดต่างๆ บนเขาใหญ่ไม่ใช่จะตรวจเฉพาะด่านทางเข้า เป็นต้น
ขณะที่ ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ก็ได้โพสต์คลิปแสดงวิธีใส่ “ฝอยขัดหม้อ” ในท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ เพื่อให้ท่อลดความดัง โดยมีผู้เข้าชมกว่า 1.6 ล้านครั้ง ซึ่งก็มีคนมาคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์จำนวนมากด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ เนื่องจากทางอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีกฎระเบียบการใช้เสียงไม่ให้ดังเกิน 95 เดซิเบลในพื้นที่เขตอุทยานเพื่อไม่เป็นการรบกวนสัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อม ซึ่งที่ผ่านมาก็จะมีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใช้รถจักรยานยนต์เดินทางมาเที่ยวหรือผ่านเส้นทางอุทยาน ซึ่งก็จะมีส่วนหนึ่งที่มีการดัดแปลงท่อไอเสียจากเดิมให้มีเสียงดัง จึงคิดหาวิธีจนมาพบการใช้ฝอยขัดหม้อมายัดที่ท่อไอเสีย ในระหว่างการตรวจจับวัดระดับเสียงที่ทางเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝั่งทางขึ้นลง
ขณะเดียวกัน ฝอยขัดหม้อที่ยัดในท่อนั้นก็ตกอยู่หรือบางคนก็ทิ้งในพื้นที่อุทยานที่มีสัตว์ป่าออกหากินตามธรรมชาติ จึงทำให้เป็นที่กังวลใจของนักท่องเที่ยวที่เคารพกฎอุทยาน
ทางด้าน นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้รับทราบข้อมูลที่เกิดขึ้นพร้อมเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้มีเจ้าหน้าที่ตรวจวัดความดังที่หน้าด่านทั้งสองฝั่งไม่ให้ดังเกิน 95 เดซิเบล ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่รู้ตัวเองว่าทำผิดกฎหรือเสียงดังเกินที่กำหนด ก็จะใช้วิธีการแก้ปัญหาโดยใช้ฝอยขัดหม้อดันเข้าไปในท่อเพื่อไม่ให้เสียงดังเกินที่กำหนด และเมื่อผ่านด่านเข้ามาในเขตอุทยานได้แล้วก็จะเอาฝอยขัดหม้อที่อุดไว้ทิ้ง
ทั้งนี้ ทางอุทยานรับทราบเรื่องที่เกิดขึ้น และมีวิธีการแก้ปัญหาแต่ไม่สามารถบอกได้ว่ามีวิธีการอย่างไร ซึ่งได้เริ่มตั้งแต่วันนี้ โดยจะมีการปรับรถทุกคันที่ส่งเสียงดังในเขตอุทยาน ส่วนฝอยขัดหม้อนั้นจะมีผลอะไรกับสัตว์ป่าหรือไม่นั้น ต้องบอกว่าไม่มีผล เนื่องจากฝอยขัดหม้อไม่มีกลิ่นอาหารแต่จะเป็นกลิ่นเหม็นจากควันไฟ ทำให้สัตว์ป่าไม่สนใจ
ดังนั้น อยากฝากถึงนักท่องเที่ยวให้รู้กฎระเบียบของอุทยานฯ โดยเรื่องเสียงดังนั้นห้ามเกิน 95 เดซิเบล ซึ่งนักท่องเที่ยวควรที่จะเตรียมตัวมาก่อนไม่ใช่มาแก้ปัญหาแบบนี้
ขณะที่ นายปราโมทย์ เพ็งบำรุง เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เผยว่า ที่ผ่านมาตนเจอฝอยขัดหม้อในพื้นที่เขตอุทยานบ่อย จะพบจากรถจักรยานยนต์ที่ทำท่อโล่งก็จะเอาฝอยขัดหม้อยัดเข้าไป และเมื่อเจ้าหน้าที่ใช้อุปกรณ์ตรวจวัดระดับเสียงท่อก็จะทำให้เสียงไม่เกินที่กำหนด ซึ่งอยากให้ด่านทั้งสองฝั่งถ้าเจอรถที่มีลักษณะทำพฤติกรรมแบบนี้ต้องไม่อนุญาตให้ขึ้นอุทยาน ซึ่งเมื่อผ่านด่านมาได้ก็จะมาถอดเอาฝอยขัดออกระหว่างทางและทิ้งข้างทาง
คุณเต๊ะ นักท่องเที่ยว เผยว่า สาเหตุที่นักท่องเที่ยวต้องใช้ฝอยขัดยัดท่อนั้น เนื่องจากนักท่องเที่ยวไม่ได้เตรียมตัวที่จะเปลี่ยนไปใส่ท่อเดิมมาก่อนที่จะมาอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จึงมีวิธีการที่จะทำให้ท่อนั้นเสียงเบาลงโดยใช้ฝอยขัดหม้อที่หาซื้อตามร้านสะดวกซื้อมายัดท่อให้แน่นทำให้เสียงท่อนั้นเบาลงเพื่อที่จะสามารถผ่านเข้ามาในพื้นที่อุทยานได้ ซึ่งวิธีนี้ก็เหมือนเป็นการตบตาเจ้าหน้าที่ แต่ในมุมมองส่วนตัวตนมองว่าถ้าหากคุณจะมาเที่ยวอุทยานคุณต้องมีการเตรียมตัว วางแผน อย่างตนท่อดังก็จริง แต่เมื่อมาพื้นที่อุทยานที่มีกฎมีระเบียบก็ต้องเอาท่อเดิมใส่มา
ส่วน นายวิชัย แดงสุวรรณ นักท่องเที่ยว เผยว่า นักท่องเที่ยวที่มีพฤติกรรมใช้ฝอยขัดหม้อยัดท่อเพื่อลดเสียงนั้น เป็นนิสัยที่ไม่ดีมาก ตนกังวลว่าฝอยขัดหม้อที่ถูกทิ้งตามข้างทางแล้วสัตว์ป่าผ่านมากินเข้าไปก็จะเกิดอันตรายกับสัตว์ป่า ซึ่งจริงแล้วท่อแต่งที่เสียงดังนั้นจะมีจุกลดเสียงมาให้เมื่อตรวจวัดเสียงก็จะดังไม่เกินที่กำหนด ทั้งนี้ตนฝากถึงนักท่องเที่ยวที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ว่าอย่าหาทำ มันนิสัยไม่ดี.
