จุลพันธ์ ประกาศด่วน เงินดิจิทัล 10,000

เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 18 มิ.ย.2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งให้ทบทวนแนวทางการใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท นำมาซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและโทรศัพท์ได้ว่า มีข้อสรุปจากคณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการเติมเงินหนึ่งหมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต

โดยตนและนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ได้ทักท้วงประเด็นนี้ไป เพราะอยากให้เป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยเป็นหลัก แต่ยังมีข้อจำกัดในการปฏิบัติ เพราะบางร้านค้าขายของหลายประเภท จึงเป็นความกังวลของภาคการปฏิบัติจริง

กระทรวงพาณิชย์ จึงเสนอคณะอนุกรรมการฯ สุดท้ายจึงมีมติให้ยืนตามเดิม ซึ่งนายกฯ ค่อนข้างห่วงเรื่องนี้ เพราะกลไกของการใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ต้องการให้เกิดการบริโภค การจ้างงาน การผลิตภายในประเทศเป็นหลัก ดังนั้น ต้องไปทบทวนดูในรูปแบบของคณะกรรมการให้ทบทวน คาดว่าจะได้ข้อสรุป 1-2 สัปดาห์ และจะนัดประชุมอีกครั้งในปลายสัปดาห์หน้า

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เมื่อถึงเวลาจะสอบถามแหล่งเงินจาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธกส. จึงเชื่อมั่นว่าทันแน่นอน เพราะดูตามกรอบเวลาแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากแหล่งเงินจาก ธกส.ใช้ไม่ได้ จะมีแหล่งเงินอื่นหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดประเด็นนี้ ต้องดูความเหมาะสม และดูองค์ประกอบอีกหลายอย่าง ยอมรับว่า หากใช้บัญชี ธกส. ต้องจ่ายผ่านบัญชีของเกษตรกร เรื่องนี้จึงยังมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ

เมื่อถามถึงความเห็นและการสร้างความเชื่อกรณีหุ้นตก เนื่องมาจากสถานการณ์ทางการเมือง นายจุลพันธ์ ยอมรับว่า ปัจจัยหนึ่งเกิดจากการเมือง และต้องยอมรับความจริงว่าสถานการณ์การเมืองช่วงเดือนนี้ มีหลายกรณี แต่ไม่มีผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐาน สภาพตลาดยังคงความแข็งแกร่ง รวมถึงกลไกของรัฐบาลในการผลักดันทางการลงทุนในต่างประเทศ การพัฒนาคุณภาพแรงงาน

ทั้งหมดจะสร้างความเชื่อมั่นในส่วนของพื้นฐานการตลาดได้ แต่อีกไม่กี่วันเรื่องราวที่เป็นข้อห่วงใยของตลาดที่เกิดความลังเลเกิดขึ้น สุดท้ายจะมีกระบวนทั้งศาลรัฐธรรมนูญ หรือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อมีความกระจ่างชัดในทางใดทางหนึ่ง ตลาดก็จะได้รับข้อมูลเหล่านั้นไปแล้วกลับสู่ภาวะปกติ

สุดท้ายคงต้องมีมาตรการออกมา แต่คงไม่ใช่มาตรการที่ออกในวันเดียว เพราะกลไกตรงนี้จะเป็นผลกระทบกับตลาดที่เกิดความสงสัยกับสถานการณ์การเมืองเพียงแค่ช่วงระยะหนึ่งเท่านั้น อีกไม่กี่วันก็คงจะดีขึ้น