ตามรายงานของ Sohu คุณแม่รายหนึ่งในประเทศจีน ซึ่งมีลูกกำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เธอค่อนข้างกังวลเรื่องการเรียนของลูก ดังนั้นจึงระมัดระวังในการเรียนและการบ้านของลูกเป็นอย่างมาก แม้ว่าเธอจะรู้ว่าคณิตศาสตร์ของนักเรียนเริ่มยากขึ้นเรื่อย ๆ แต่เธอก็ยังคงมีความมั่นใจในการสอนลูกของตัวเอง เพราะสำหรับเธอแล้ว “คณิตศาสตร์ชั้น ป.1 ไม่ใช่เรื่องยาก”
อย่างไรก็ตาม ความคิดดังกล่าวก็ต้องพังทลายลง เมื่อลูกนำโจทย์คณิตศาสตร์จากชั้นเรียนกลับบ้าน ซึ่งทำให้เธอชะงักไป โดยโจทย์ระบุว่าให้นักเรียน “ดูภาพแล้วคำนวณ” แต่แก้โจทย์นี้ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะคำถามข้อ 2
ลูกของเธอเขียนการบ้านข้อดังกล่าวว่า “5+2+3=10” ปรากฏว่าถูกครูขีดฆ่าผิด ทำเอาคนเป็นแม่ยอมรับว่าไม่มีทักษะพอที่จะแก้โจทย์ แต่เมื่อฟังคำอธิบายวิธีคิดจากคุณครู ทำเอาเธอถึงกับหงุดหงิด
จากรูปภาพการคำนวณการบ้านข้อที่ 1 แสดงให้เห็นค้างปลูกผัก ด้านขวามีน้ำเต้า 5 ผล บนต้น 2 อัน และในตะกร้า 3 อัน ฝั่งซ้ายมีผู้หนึ่งยืนอยู่ใต้ค้างปลูกผักทำท่าว่ากำลังเด็ดน้ำเต้า ที่มีทั้งหมด 5 ผล
เมื่อเห็นภาพที่ให้มา ลูกของเธอจึงตอบวิธีคำนวณโจทย์ไว้ดังนี้ “5 + 2 + 3 = 10” แปลว่า มีน้ำเต้าอยู่ทางซ้าย 5 อัน ทางด้านขวามีน้ำเต้า 2 อัน และมีน้ำเต้า 3 อัน อยู่ในตะกร้า อย่างไรก็ตาม ครูขีดฆ่าว่าการคำนวณนี้ไม่ถูกต้อง
ทำเอาเธอและลูกไม่เข้าใจว่าทำไมผลลัพธ์จึงไม่ถูกต้อง สุดท้ายผู้เป็นแม่จึงส่งคำถามนี้ให้เพื่อน 2-3 คน ช่วยดู และโพสต์ลงกลุ่มผู้ปกครองด้วยความหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากชาวเน็ต อย่างไรก็ตาม ทุกคนต่างพาส่ายหัว “ทำไมการบ้านข้อนี้ถึงยากนักล่ะ?”
ด้วยความคาใจ สุดท้ายผู้เป็นแม่ตัดสินใจโทรไปสอบถามจากคุณครู ซึ่งเฉลยว่าการคำนวณที่ถูกต้องจะต้องเป็น “10 – 3 – 1 = 6” เพราะเป้าหมายของโจทย์ข้อนี้คือการถามนักเรียนเกี่ยวกับจำนวนน้ำเต้าที่ยังเหลืออยู่บนค้างปลูกผัก
เมื่อดูจากภาพเราจะเห็นว่าในภาพเรามีน้ำเต้าทั้งหมด 10 ผล แต่ชาวนาเก็บน้ำเต้าไปแล้ว 1 ผล ส่วนน้ำเต้าอีก 3 ผล ถูกเก็บใส่ไว้ในตะกร้าแล้ว ดังนั้นผลไม้จึงเหลือเพียง 6 ผลไม้บนค้างปลูกผัก
หลังจากฟังคำอธิบายของครูแล้ว ทำเอาผู้เป็นแม่รู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก เพราะหัวข้อของการบ้านนี้คลุมเครือเกินไป หากเป็นเช่นนี้คุณครูควรยอมรับคำตอบอื่น ๆ ของนักเรียน ไม่ใช่กำหนดว่าต้องตอบแบบนี้เท่านั้น หรือไม่คำถามที่ถามก็ควรต้องเจาะจงว่า “คำนวณจำนวนน้ำเต้าบนค้างปลูกผัก”
