เกาหลีเดือด ปลุกคดีดัง “แก๊งทรชนมีรยัง” 44 ผู้เยาว์ รุมละเมิดเด็ก ปัจจุบันได้ดีกันทั้งนั้น!!

ยังจำกันได้ไหม… เมื่อปี 2547 เกิดคดีล่วงละเมิดทางเพศในประเทศเกาหลีใต้ คดีนี้เกิดขึ้นที่เมืองมีรยัง จังหวัดคยองซังนัมโด นักเรียนมัธยมปลายชาย 44 คน ข่มขืนและทำร้ายนักเรียนมัธยมต้นหญิงอายุ 14 ปี ในช่วงเวลา 1 ปี นักเรียนชายเหล่านี้จากโรงเรียนมัธยมหลายแห่งในพื้นที่ ได้จัดตั้ง “แนวร่วม” และ “ส่งต่อ” เหยื่อ โดยรุมข่มขืนเหยื่อหลายครั้ง และยังได้บันทึกภาพเหยื่อ เพื่อข่มขู่ว่าจะเผยแพร่ภาพดังกล่าวหากเธอพยายามไปหาตำรวจ

อย่างไรก็ตาม หลังจากการสืบสวนและการพิจารณาคดีของตำรวจ ท้ายที่สุดแล้วนักเรียนชายทั้ง 44 คน กลับไม่มีใครถูกตั้งข้อหาทางอาญา เนื่องจากคนร้ายเป็น “ผู้เยาว์ซึ่งไม่เคยก่ออาชญากรรมมาก่อน” คนร้ายส่วนใหญ่ถูกตัดสินให้เป็นอาสาสมัคร หรือส่งตัวไปยังศูนย์กักกันเยาวชน ซึ่งหมายความว่าคนร้ายทั้งหมดเดินออกจากคดีโดยมี “ประวัติอาชญากรรมที่ขาวสะอาด”

คำตัดสินของศาลในขณะนั้นยังระบุว่า “ระดับของการข่มขืนไม่รุนแรง” และ “ชายหนุ่มบางคนอาจกระทำการอย่างหุนหันพลันแล่น เพราะความอยากรู้อยากเห็นทางเพศ หรือแรงกดดันจากเพื่อนฝูง”

ทั้งนี้ จากนั้น เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา 2567 เกาหลีใต้ร้อนเป็นไฟอีกครั้ง เมื่อคดีล่วงละเมิดทางเพศเมื่อ 20 ปีก่อนนี้ ถูกช่อง YouTube ช่องหนึ่งได้ขุดขึ้นมาตีแผ่ไม่ให้สังคมลืมเลือนความโหดร้ายในครั้งนั้น เริ่มเปิดเผยตัวตนของผู้คนร้ายทั้ง 44 คนจาก “คดีล่วงละเมิดทางเพศมีรยัง”

ในวันแรก ตัวตนของ “นายเอ” ถูกเปิดเผยพร้อมกับบัญชีโซเชียลมีเดียของเขา พร้อมระบุว่าเขาทำงานในร้านอาหารชื่อดังที่เป็นของญาติ หนึ่งในภาพถ่ายจากอินสตาแกรมที่ถูกเผยแพร่อย่างรวดเร็วทางออนไลน์ คือการโพสต์ท่าถ่ายรูปกับกับเชฟชื่อดังอย่าง แบค จองวอน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับชาวเน็ตจำนวนมาก

ในวันที่สอง ตัวตนของ “นายบี” ก็ถูกเปิดเผย ซึ่งสร้างความเดือดดาลให้กับสาธารณะชนอีกครั้ง เมื่อพบว่าเขาทำงานที่ ‘Volvo Korea’ อีกทั้งนายเอและนายบี ต่างแต่งงานและมีลูกแล้ว ใช้ชีวิตเหมือนไม่เคยทำผิด

ในวันที่สาม ตัวตนของ “นายซี” เพื่อนสนิทของนายบี ก็ถูกเปิดเผยตามมาติดๆ ซึ่งพบว่าเขาก็ทำงานใน “บริษัทชื่อดัง” เช่นเดียวกัน อีกทั้งยังได้แต่งงานกับลูกสาวจากตระกูลที่มีหน้ามีตาอีกด้วย

ผลกระทบที่ตามมาหลังจากตัวตนของทั้งสามคนถูกเปิดเผย สถานที่ทำงานของพวกเขาต่างรีบพากันออกแถลงการณ์ทางออนไลน์ เพื่อยืนยันว่า นายเอ, นายบี, และนายซี ถูกไล่ออกจากงานแล้ว ขณะที่ทางร้านอาหารของญาติที่นายเอทำงาน ก็ยังไม่เปิดให้บริการนับตั้งแต่ประเด็นร้อนเกิดขึ้น

ทั้งนี้ แม้ว่ายูทูบเบอร์เจ้าของช่องที่ออกมาเปิดโปงนี้ จะบอกว่าตั้งใจที่จะเปิดเผยตัวตนของผู้โจมตีทั้ง 44 คนจาก “คดีมีรยัง” ทีละคน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเรื่องนี้กลายเป็นพาดหัวข่าวสำคัญระดับประเทศ ตัวแทนของศูนย์บรรเทาความรุนแรงทางเพศแห่งเกาหลี (KSVRC) ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ โดยอ้างว่ายูทูบเบอร์ “ไม่ได้ขออนุญาตจากครอบครัวของเหยื่อ” ก่อนที่จะเผยแพร่ข้อมูลนี้

ขณะนี้ ชาวเน็ตเกาหลีมีความคิดเห็นแบ่งออกเป็นสองทาง บางคนอยากเห็นตัวตนของผู้ก่อเหตุทั้ง 44 คนจากคดีมีรยัง ให้เปิดเผยต่อสาธารณะทางออนไลน์ เพราะพวกเขาเชื่อว่าคนร้าย “สมควรชดใช้” ให้กับสิ่งที่พวกเขาเคยก่อไว้ และไม่ควรดำเนินชีวิตในสังคมราวกับว่าพวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิด อย่างไรก็ตาม บางคนได้แสดงความกังวลด้านจริยธรรม ว่าเรื่องนี้จะสร้างความเสียหายให้กับเหยื่อและครอบครัวของเธออีกครั้ง พวกเขามองว่าเหยื่อ “มีสิทธิ์ที่จะถูกลืมเลือน” และยูทูบเบอร์ควรได้รับความยินยอมอย่างเหมาะสมจากครอบครัวของเหยื่อ ก่อนที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งต่อไป