ใครเห็นก็ว่าตาย ตา 72 นอนเปลือยแน่นิ่ง เลือด-อึเรี่ยราด จนท.กำลังเก็บศพ จู่ๆ ลืมตาฟื้น

ใครเห็นก็ว่าตาย ตา 72 นอนเปลือยแน่นิ่ง เลือด-อึเรี่ยราด จนท.กำลังเก็บศพ จู่ๆ ลืมตาฟื้น เพื่อนบ้านเผยไม่ออกจากบ้าน 3 วัน ได้กลิ่นเหม็น ส่องหน้าต่างเห็นเป็นศพ

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 4 มิ.ย. 2567 นายวีระพล รักเสมอวงศ์ แอดมินเพจบ้านดุงอัพเดต รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านคำบอน ต.นาคำ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ว่า พบศพคนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน ที่บ้านเลขที่ 139 บ้านคำบอน ต.นาคำ โดยชาวบ้านบอกว่าตายมาแล้ว 3 วัน มีกลิ่นศพออกมาจากตัวบ้าน จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย

ที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ เมื่อส่องเข้าไปในบ้านพบนายคอนสาร หรือตาหอก โสสุด อายุ 72 ปี เจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิตสภาพเปลือยกายอยู่พื้นบ้าน แขนขาบวม มีเลือดและอุจจาระเรี่ยราด ผู้ใหญ่บ้านจึงปีนหน้าต่างเข้าไปเปิดประตูบ้าน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปเก็บศพ ก่อนมอบให้ญาติไปดำเนินการตามประเพณี

ชาวบ้านแจ้งมีคนนอนตายในบ้าน

สอบถามชาวบ้านบอกว่า นายหอกอยู่บ้านคนเดียว เมียอยู่กรุงเทพฯ ส่วนลูกทำงานอยู่เมืองนอก สร้างบ้านให้พ่ออยู่ ชาวบ้านไม่เห็นนายหอกออกจากบ้านมาแล้ว 3 วัน ได้กลิ่นเหม็นจึงเดินเข้ามาส่องดูหน้าต่างแทบช็อกเจอนายหอกนอนเสียชีวิตสภาพเปลือยกาย คาดว่าเสียชีวิตเพราะโรคประจำตัว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที

ตรวจสอบเบื้องต้นเห็นว่านายหอกเสียชีวิตแล้ว นายวีระพลจึงเดินไปเอาผ้าขาวที่รถตู้ เพื่อมาคลุมร่างของนายหอก รอให้ตำรวจและแพทย์เวรมาชันสูตรศพ แต่ขณะที่นายวีระพลกำลังคุยโทรศัพท์และกำลังเอาผ้าขาวคลุมร่าง

ปรากฏว่าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น เมื่อนายวีระพลเหลือบไปเห็นนายหอกลืมตา อ้าปากหายใจอยู่ จึงรีบวางโทรศัพท์และร้องตะโกนบอกว่า ยังไม่ตายๆ กู้ชีพมารับตัวไปส่งโรงพยาบาลด่วนๆ ทางกู้ชีพ อบต.นาคำ จึงรีบเอาเปลมายกร่างของนายหอกส่ง รพ.สมเด็จพระยุพราชบ้านดุง

ขณะที่ชาวบ้านที่พากันมามุงดูเหตุการณ์ เมื่อได้ยินว่านายหอกยังไม่ตาย ทั้งตกใจทั้งดีใจต่างพากันร้องลั่นบ้าน บางคนไม่เชื่อคิดว่านายหอกตายแล้ว เพราะมีกลิ่นเหม็นโชยออกไปนอกบ้าน แต่ชาวบ้านสุดดีใจเมื่อไม่ตาย ต่างพากันขนลุกและช็อกกันทั้งหมู่บ้าน